ประวัติมวยไทย

การจัดการแข่งขันมวยไทย

การแข่งขันมวยไทยครั้งสมัยโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีกติกาแน่นอนอย่างไรบ้าง ผู้มีอำนาจเด็ดขาด ได้แก่ นายสนามมวย แต่เมื่อมวยสากลได้รับการเผยแพร่เข้ามาครั้งแรก โดยหม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์วงศ์ สวัสดิกุล เมื่อ พ.ศ. 2455 ทางวงการมวยไทยจึงได้วางกติกาขึ้น ซึ่งการชกในสมัยนี้ก็ยังคงมีการคาดเชือกกันอยู่ ต่อมาจึงได้สวมนวมชกกัน แต่การชกก็ยังเหมือนเดิม คือยังใช้การถีบ เตะ ชก ศอก เข่า ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันมวยไทยเป็นกีฬาที่เก่าที่สุดของเรา ได้วิวัฒนาการในเรื่องของกติกาและการจัดการแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน โดยย่อ ๆ ดังนี้
พ.ศ. 2477 กระทรวงมหาดไทยได้ร่างกติกาคุ้มครองมวยไทยและมวยสากล เพื่อเป็นการแข่งขันชั่วคราว
พ.ศ.2479 กรมพลศึกษามีหน้าที่ในการจัดการแข่งขันมวยโดยตรงได้ตั้งกรรมการขึ้นชุดหนึ่งทำกาปรับปรุงแก้ไข กติกามวยไทยและมวยสากล และประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2480 เป็นต้นมา และได้จัดพิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2482
การแข่งขันที่เป็นหลักฐานเริ่มอย่างจริงจังในสมัยรัชกาลที่ 6 (ก่อนหน้านี้ขึ้นไปไม่มีหลักฐานที่แน่นอน) ซึ่งพอจะแบ่งออกเป็นสมัยต่าง ๆ ได้ 5 สมัย ดังนี้

1. สมัยสวนกุหลาบ สมัยนี้ประชาชนนิยมการชกมวย และชมการแข่งขันชกมวยกันเป็นจำนวนมาก การชกมวยไทย ในสมัยนี้ยังมีการคาดเชือก (นักมวยสมัยเก่าใช้ด้ายดิบเส้นโตขนาดดินสอดำชุบแป้งให้แข็ง พันมือตั้งแต่สันมือตลอดถึงข้อศอก และพันรัดเป็นปมทางด้านหลังของข้อนิ้วมือหรือสันหมัด เป็นรูปก้นหอย ที่เรียกกันว่า”คาดเชือก”) การชกได้กำหนดจำนวนยกไว้ แน่นอนแล้ว มีกรรมการชี้ขาด ผู้ตัดสินส่วนมากนั่งอยู่ข้างเวทีและให้อาณัติสัญญาณนักมวย หยุดชกด้วยเสียงหรือนกหวีด

2. สมัยท่าช้าง ในสมัยนี้เป็นสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อ จากการคาดเชือกมาเป็นสวมนวม (พ.ศ. 2462) สมัยนี้ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรในที่สุดสนามก็เลิกไป กรรมการผู้ชี้ขาดที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ก็คือ นายทิม อติเปรมานนท์ และนายนิยม ทองชิตร์

3. สมัยสวนสนุก การจัดการแข่งขันในสมัยนี้นายสนามดำเนินงานได้ดี และยืนยาวอยู่หลายปี นักมวยที่มีชื่อเสียง เช่น สมาน ดิลกวิลาศ และสมพงศ์ เวชชสิทธิ์ สมัยนี้มีการแข่งขันทั้งมวยไทยและมวยสากล กรรมการผู้ตัดสินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ หลวงพิพัฒน์ พลกาย นายสุนทร ทวีสิทธิ์ (ครูกิมเส็ง) และ นายนิยม ทองชิตร์

4. สมัยหลักเมืองและสวนเจ้าเชษฐ์ การแข่งขันชกมวยในสมัยนี้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพราะทางราชการทหารเข้ามาร่วมมือ ช่วยเหลือ และมีผลเป็นรายได้บำรุงกองทัพจำนวนมาก นักมวยที่มีชื่อในยุคนี้ได้แก่ สุข ปราสาทหินพิมาย ผล พระประแดง เพิก สิงหพัลลภ ประเสริฐ ส.ส. ถวัลย์ วงศ์เทเวศน์ และทองใบ ยนตรกิจ การแข่งขันสมัยนี้ดำเนินมาหลายปีจนถึงสมัยสงครามโลก ครั้งที่สองจึงได้เลิกไป กรรมการผู้ตัดสินในสมัยนี้ได้แก่ นายสังเวียน หิรัญเลขา นายเจือ จักษุรักษ์ และนายวงศ์ หิรัญเลขา

5. สมัยปัจจุบัน ได้ทำการแข่งขัน ณ เวทีราชดำเนินและเวทีลุมพีนีเป็นประจำ และยังมีเวทีมวยที่เปิดการแข่งขันถาวร และชั่วคราวทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอีกมากมาย
ปัจจุบันมี พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 มีสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย สำนักงานกีฬาอาชีพ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.นี้ ให้มีหน้าที่ส่งเสริม คุ้มครอง สนับสนุน และควบคุมกิจการมวยในประเทศไทยให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งนับว่าเป็นกฎหมายฉบับแรกของวงการมวยเมืองไทย

หนังสืออ้างอิง
จรวย แก่นวงษ์คำ มวยไทย มวยสากล โอเดียนสโตร์ กรุงเทพฯ 2530
ปัญญา ไกรทัศน์ มวยไทยยอดศิลปการต่อสู้ พิมพ์ครั้งที่ 5 สารมวลชน 2530
สมบัติ จำปาเงิน กีฬาไทย สุวีริยาสาส์น กรุงเทพฯ 2523

หมายเหตุ
มวยไทยปัจจุบันได้รับการยอมรับและเผยแพร่ไปทั่วโลกทุกทวีปชาวต่างชาติทั้งชาย-หญิง ได้นำวิชามวยไทยไปฝึก เพื่อศิลปะการต่อสู้ป้องกันตนเอง(Self-defense) และมีนักกีฬามวยไทยทั้งในระดับสมัครเล่นและอาชีพ (Amateur and professional)นักกีฬามวยไทยที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่นักมวยไทยเท่านั้น นักมวยต่างชาติที่มีฝีมือมีศิลปะมวยไทยดีกว่า จนสามารถเอาชนะนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงก็มีไม่น้อยตรงกันข้าม กับการฝึกมวยไทยของเราที่เราเป็นต้นตำรับ เราฝึกเพื่อส่งเข้า แข่งขัน เล่นการพนัน มีแต่ใช้กำลังเข้ากอดปล้ำตีเข่ากันอย่างเดียว ไม่มีศิลปะแม่ไม้มวยไทยเช่นแต่ก่อน จึงเป็นจุดเสื่อมของ มวยไทยตามทัศนะของบุคคลที่ได้รวบรวมไว้ในหัวข้อ “มวยไทยปัจจุบัน : ภาพลักษณ์การพนัน และสิ้นยุคพัฒนาการ” เพื่อเป็นข้อสังเกตุ วิเคราะห์ และหาแนวทางพัฒนาศิลปะมวยไทยของเราต่อไป

Pages: 1 2 3 4 5 6